ตามนั้นครับ
ไม่่ออกความเห็นเพิ่มเติม...
นางฟ้าขวัญใจผู้ป่วย[/size][/b][/color]
[/t][/t][/t] |
| | |
| |
[/color]“สวัสดีค่ะ นัดคุณหมอท่านไหนเอาไว้หรือเปล่าคะ” นี่คือเสียงทักทายหวานๆ เมื่อหันไปทางต้นเสียงก็พบกับรอยยิ้มสดใสของพยาบาลทหารสาว ตาโต ยิ้มสวย มีดีกรีเป็นถึงรองนางสาวไทยอันดับ 1 เธอเป็นนางฟ้าขวัญใจผู้ป่วย แอบเห็นหนุ่มๆ ส่งตาหวานให้เธอที่กำลังดูแลผู้มาใช้บริการของโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด รวมถึงแผนกไอ.ซี.ยู. หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมสาวหน้าหวานแบบเธอถึงเลือกทำงานในห้องไอ.ซี.ยู. วันนี้ M-Lite จะพาไปหาคำตอบกับ นางฟ้าไอ.ซี.ยู. คนสวย[/b]
เรื่องราวในชีวิตของเธอนั้นน่าสนใจไม่แพ้ความสวยของเธอ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเป็นพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยไอ.ซี.ยู ซึ่งต้องทำงานอยู่ระหว่างความเป็นความตายของคน หรือการตัดสินใจประกวดนางสาวไทย จนได้รับตำแหน่งสำคัญ และเป็นที่รู้จักในที่สุด
เธอเป็นสาวที่มีกิริยามารยาทเรียบร้อย อ่อนน้อม และอ่อนหวาน เมื่อได้ทำความรู้จักกับเธอมากขึ้นจะเห็นว่าเธอเป็นคนสดใส ร่าเริง และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย แต่จากหน้าที่การเป็นพยาบาลทหาร ทำให้เธอมีความเข้มแข็ง และต้องเผชิญกับความอดทนมากกว่างานอื่นๆ แต่เมื่อเป็นงานที่รัก และมีความสุขในสิ่งที่ทำ เราจึงเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าหวานๆ ของเธอได้เสมอ
[/font]
[/color]อยากเป็นพยาบาลเพราะคุณปู่
[/color]
ปาล์มฝันอยากเป็นพยาบาลมาตั้งแต่เด็ก ทั้งนี้เพราะเธอเห็นคุณปู่ป่วยหนักมาตลอด ถึงขนาด
เข้าห้องไอ.ซี.ยู แต่ตอนนั้นเธอก็ได้แต่เพียงมองดูอย่างเดียวไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย เธอจึงมีความฝันที่ว่าวันหนึ่งเมื่อโตขึ้นอยากเป็นหมอ หรือพยาบาล เพื่อจะได้ช่วยเหลือผู้อื่น
สังเกตว่าเธอจะทักทาย ถามไถ่ ผู้คนรอบข้างเธอเป็นอย่างดี “ตอนเด็กปาล์มเห็นคุณปู่ป่วย ตอนนั้นปาล์มช่วยอะไรไม่ได้เลยเพราะว่าเด็กมาก สายตรวจปัสสาวะคืออะไร ก็ยังไม่รู้ ก็เลยมีความคิดที่อยากเรียนเกี่ยวกับพยาบาล แล้วโดยส่วนตัวก็ชอบทางด้านหมอ พยาบาล อยู่แล้ว ตอนที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ปาล์มก็เลยเลือกสอบเข้าคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่ได้โควตาคณะบริหารธุรกิจ ซึ่งคิดว่าเราไม่น่าจะถนัดด้านนั้น ก็เลยลองสอบที่วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก
การที่ปาล์มเลือกเรียนวิทยาลัยพยาบาลทหารก็เพราะมีพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง แนะนำว่าถ้าอยากเป็นพยาบาลก็ให้มาเรียนที่วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก เพราะได้รับการฝึกของการเป็นทหาร พอจบออกมาก็ได้ยศร้อยตรี ปาล์มเลือกที่นี่
“ช่วงที่เรียนอยู่ก็ได้ฝึกงานที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ เพราะว่าอยู่ใกล้กัน ที่นี่จะรับการฝึกของนักเรียนแพทย์ นักเรียนพยาบาล รวมไปถึงแพทย์ที่จบไปแล้ว เพราะเป็นโรงพยาบาลทหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ช่วงปี 3 ก็ไปฝึกงานที่โรงพยาบาลค่ายต่างจังหวัดลำปาง, อุบล, อุดร
[/color]อาชีพนี้กว่าจะเรียนจบก็ค่อนข้างหนักเหมือนกัน ต้องใช้ความอดทน และต้องรู้จักขวนขวาย พัฒนาทักษะในการทำงาน รวมถึงความรู้ทางวิชาชีพ ต้องรู้จักที่จะศึกษาหาความรู้ ปาล์มก็ใช้วิธีหาความรู้ทางอินเทอร์เน็ตด้วย เพราะอินเทอร์เน็ตตอนนี้ไปไกลแล้ว เราต้องการจะหาอะไรก็ค้นหาได้เลย”[/font]
[/color] [/color] [/font]
[/color]เลือกดูแลผู้ป่วยไอ.ซี.ยู.
[/color]
หลังจากเรียนจบ ปาล์มเลือกเป็นพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยไอ.ซี.ยู. แผนกอายุรกรรม ซึ่งเป็นงานที่ค่อนข้างหนัก และผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยสูงอายุที่มีอาการขั้นโคม่า มีท่อช่วยหายใจเกือบทุกเตียง หน้าที่ของเธอคือต้องดูแลผู้ป่วยด้วยความระมัดระวังอย่างใกล้ชิด เพราะทุกนาทีที่เธอปฏิบัติหน้าที่นั้นคืออยู่ระหว่างความเป็น และความตายของผู้ป่วย
[/color]“ปาล์มเลือกดูแลผู้ป่วยไอ.ซี.ยู. แผนกอายุรกรรม เพราะจะได้ดูแลผู้ป่วยสูงอายุ ก็มาจากเรื่องของคุณปู่ด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยสูงอายุที่เป็นโรคเรื้อรัง จะมีทั้งโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน บางท่านก็จะมีอาการช็อก แต่ถ้าเป็น ไอ.ซี.ยู. แผนกศัลยกรรม จะเป็นผู้ป่วยที่ออกจากห้องผ่าตัด
แล้วแผนกนี้เตียงก็ไม่เยอะเหมือนห้องผ่าตัด ก็เลยคิดว่าเราสามารถดูแลผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี และมีโอกาสในการพัฒนาทางวิชาชีพค่อนข้างสูง
คนไข้ส่วนใหญ่จะค่อนข้างอาการหนัก เกือบทุกเตียงจะมีท่อช่วยหายใจ ทุกวันเราแทบไม่ได้พูดคุยหรือสนทนากับคนไข้ บางท่านใส่ท่อหายใจ บางท่านก็ไม่รู้สึกตัว แต่ว่าเวลาเราทำหัตถการ เวลาเข้าไปหาคนไข้ เราก็ต้องบอกคนไข้เสมอว่าเราจะทำอะไร เราเป็นใคร”
ปาล์มเล่าถึงผู้ป่วยรายหนึ่งซึ่งเธอดูแลมาตลอด แต่คุณป้าท่านนี้เสียชีวิตแล้ว ช่วงที่เธอไปประกวดนางสาวไทย ทำให้เธอจดจำมาจนถึงวันนี้
[/color]ผู้ป่วยทำให้ปลงสังขารความที่ปาล์มอยู่กับผู้สูงอายุ ตอนที่ได้สัมผัสเช็ดเนื้อเช็ดตัว อาบน้ำให้ผู้ป่วย เราก็ได้ปลงว่าตอนนี้เรายังเป็นวัยรุ่น ผิวพรรณยังไม่เหี่ยวย่น แต่ในอนาคตมันก็ต้องเป็นไปตามวัย ก็ต้องแก่ ต้องเหี่ยวเป็นธรรมดา ก็ทำให้ปลงสังขารได้ อย่างตอนคนไข้เสียชีวิต เราก็รู้สึกสงสาร บางเคสเราก็ดูแลมาค่อนข้างนาน เราก็ต้องอดทน ถึงแม้เราจะเสียใจ แต่ก็ต้องไม่แสดงออก”[/font]
[/color]
[/color]เมื่อนางพยาบาลกลายเป็นนางงาม
[/color]การประกวดนางสาวไทยในครั้งนั้น ทำให้ปาล์มได้มีโอกาสในการพัฒนาตัวเอง จากเป็นคนไม่ค่อยกล้าพูด ขี้อาย เมื่อได้พัฒนาทักษะตรงนี้ทำให้เธอเป็นคนที่มีความมั่นใจในการพูดมากขึ้น และสามารถนำมาใช้ในการทำงานประชาสัมพันธ์ที่ทำอยู่ตอนนี้ได้อย่างดีอีกด้วย
ปาล์มเล่าว่าตอนที่ประกวดไม่เคยคาดคิดว่าจะได้รับตำแหน่ง เพราะเธอไม่ใช่คนกล้าแสดงออก แถมยังไม่มีประสบการณ์ทางด้านนี้เลย
“ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ตำแหน่ง พอเข้าถึงรอบ 18 คนก็ดีใจที่สุดแล้วค่ะ เป็นความหวังของพี่ๆ น้องๆ ที่วิทยาลัยพยาบาล มีคนให้กำลังใจค่อนข้างเยอะ จะตื่นเต้นอีกทีก็ตอนที่เขาประกาศผู้เข้ารอบ 10 คน ตื่นเต้นมาก มีครอบครัวไปเชียร์ พอประกาศหมายเลข 16 ก็ได้ยินเสียงเชียร์จากมุมโน้น มุมนี้ ก็ดีใจ ตำแหน่งทีู่มิใจอีกตำแหน่งหนึ่งก็คือนางงามบุคลิกาพ เพราะว่าที่วิทยาลัยกองทัพบก จะเน้นเรื่องบุคลิกาพมากๆ แต่ของปาล์มจะดูแข็งแรงหน่อย เวลาโพสท่ายืน พอมาดูรูปตัวเองแล้วเหมือนเกร็งๆ แข็งๆ”
ส่วนเรื่องการขัดสีฉวีวรรณก่อนประกวดนางงามนั้น สำหรับปาล์มเธอบอกว่าเป็นคนไม่ค่อยทำอะไรกับตัวเองมากนัก ก่อนจะไปเก็บตัวก็ไปขัดผิวครั้งหนึ่ง หลังจากประกวดได้ตำแหน่งก็ไปขัดผิวอีกแค่ครั้งเดียว ในชีวิตนี้เธอเคยนวดประมาณ 2-3 ครั้ง
[/color]
[/color]นางฟ้าขวัญใจผู้ป่วย แน่นอนว่าหลังจากได้รับตำแหน่งรองนางสาวไทยอันดับ 1 ชีวิตเธอย่อมเปลี่ยนไป จากที่เคย
ดูแลผู้ป่วยไอ.ซี.ยู. อย่างเดียว ทุกวันนี้เธอเป็นพยาบาลมิตราพสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย ซึ่งทำหน้าที่เป็นด่านหน้าของโรงพยาบาลคอยยิ้มแย้ม ทักทาย และดูแลให้ความสะดวกแก่ผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการ
“หลังจากได้ตำแหน่ง ปาล์มก็ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นพยาบาลมิตราพสัมพันธ์ อยู่ที่ฝ่ายบริการกองกลางพยาบาล ซึ่งจะเป็นด่านหน้าของโรงพยาบาลที่คอยดูแล และให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย ปาล์มจะอยู่ที่ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ วันจันทร์ พุธ ศุกร์ ครึ่งวันเช้า 8.00-12.00 น. เพราะต้องแบ่งไปขึ้นเวรไอ.ซี.ยู. ช่วงบ่ายก็จะมาทำงานที่กองกลางพยาบาล
ถ้าใครเข้ามา ก็จะเห็นเราทำหน้าที่ให้การพยาบาลเชิงรุก คือถ้าเห็นคนไข้มีอาการหน้านิ่วคิ้วขมวด กุมท้อง หรือบางท่านหน้าตายิ้มแย้มเข้ามา เราก็เข้าไปทักทายคนไข้ ไม่ต้องรอให้เขาเข้ามาถึงเรา ถามไถ่ว่าวันนี้เข้ามาทำอะไร พบคุณหมอท่านไหน เราก็จะให้การดูแล
[/color]
รอยยิ้มเป็นจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของปาล์ม เพราะการทำงานด้านนี้ก็ต้องใช้การสังเกต การทักทาย แล้วก็ใช้รอยยิ้ม ถ้าเราไม่ยิ้มให้เขาก่อนก็อาจจะไม่เกิดรอยยิ้มเลยก็ได้ เราก็ต้องยิ้มให้เขาก่อน และก็พร้อมที่จะให้การบริการ
ทุกวันนี้มีความสุขค่ะ คนไข้บางท่านที่มาบ่อยๆ เขาเจอเราก็มีของติดไม้ติดมือมาให้ เราก็รู้สึกดีใจ เราก็ทักทายกันเหมือนเป็นญาติ คนไข้จะจำปาล์มได้ เพราะตอนที่ประกวดได้รางวัลใหม่ๆ ทางโรงพยาบาลจะมีรูปของปาล์ม เป็นพยาบาลมิตราพสัมพันธ์ติดอยู่ที่ลิฟต์ คนไข้ก็จะพอจำได้บ้าง คนไข้ก็จะถามว่าออกมาจากลิฟต์แล้วเหรอ ปาล์มก็จะใส่เสื้อคลุมสีเขียวแบบนี้ค่ะ”
[/font]
[/color]ช่วงเคอร์ฟิวอยู่ที่รพ.ตลอด
แม้ว่าช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงเทพฯ จะผ่านไปหลายเดือนแล้ว สาวปาล์มเล่าว่าช่วงนั้นเธออยู่โรงพยาบาลตลอด คอยดูแล ประสานงาน ให้ความช่วยเหลือในแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินพิเศษ และได้เห็นความมีน้ำใจต่อคนไทยด้วยกัน แต่เธอฝากบอกว่าถึงแม้เหตุการณ์จะสงบแล้วก็อย่าลืมทหาราคใต้ที่ทุกวันนี้ยังรอน้ำใจจากคนไทยเช่นกันปาล์มรู้สึกว่าเป็นการสูญเสียที่ค่อนข้างมาก เพราะว่าคนไทยปกติจะรักสามัคคีกัน แต่นี่อาจจะเป็นการแตกแยกทางด้านความคิด แต่ว่าเราก็สามารถปรับและจูนเข้าหากันได้ ถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก เราก็รองรับสถานการณ์อยู่แล้ว”
[/color]สุขและรักในงานที่ทำ
[/color]ด้วยอาชีพพยาบาล เป็นงานที่ต้องแบ่งเวรทำงานเป็นช่วงเวลา บางครั้งก็ต้องอยู่เวรดึก แถมยังต้องตื่นแต่เช้า จึงทำให้มีเวลาในการพักผ่อน หรือพบปะเพื่อนฝูงค่อนข้างน้อย แต่เธอก็ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยหรือท้อ แถมยังเล่าถึงการทำงานด้วยสีหน้าที่มีความสุขเมื่อถามถึงเรื่องสเปกของหนุ่มที่เธอชอบ เธอบอกว่าชอบผู้ชายที่นิสัยเป็นผู้ใหญ่กว่า ที่สำคัญต้องเข้าใจเรื่องเวลาการทำงานของเธอ และไม่ชอบผู้ชายที่ขี้หึงเรารักในอาชีพนี้ และคิดเสมอว่าเราเกิดมาจากวิชาชีพพยาบาล เราก็จะไม่ทิ้งอาชีพนี้ คิดว่าที่เราได้รับตำแหน่ง ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเราทำงานประจำเป็นพยาบาล ซึ่งเป็นวิชาชีพที่มีคุณค่ามากๆ”
[/font]
[/color]
[/color]ชื่อ :
ชื่อเล่น : ปาล์ม
วันเดือนปีเกิด : 17 เมษายน 2529
ลำปาง
ประวัติการศึกษา : จบการศึกษาจากคณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก
ประวัติการทำงาน :
ความสามารถพิเศษ : เล่นดนตรีไทย, เต้นจินตลีลา
รายงานข่าวโดยทีมข่าว M-Lite/ASTVสุดสัปดาห์
ลุงตั้ม ฝ่ายเก็บเรื่องราวดีๆ มาฝากครับ
[/td][/tr][/table]